ข้อกำหนด และเงื่อนไขในการขนส่ง



บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด

1. คำจำกัดความ

คำศัพท์ต่อไปนี้ที่ใช้ในข้อตกลงและเงื่อนไขจะมีความหมายตามที่กำหนดไว้ด้านล่าง เว้นเสียแต่ว่าระบุไว้เป็นอย่างอื่นหรือบริบทเป็นอย่างอื่น

  • 1.1 “เรา” “พวกเรา” หรือ “ของเรา” หมายถึง บริษัท เคอรี่เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด พนักงาน ผู้รับเหมาช่วงและตัวแทน
  • 1.2 “คุณ” หรือ “ของคุณ” หมายถึงผู้ส่งสินค้า ผู้ส่งของ และมีชื่อเป็นผู้ส่งสินค้าในใบนำส่งสินค้า
  • 1.3 “ผู้ส่งสินค้า” หมายถึงบุคคลที่มีชื่อเป็นผู้ส่งสินค้าในใบนำส่งสินค้า
  • 1.4 “ผู้ส่ง” หมายถึงบุคคลที่ส่งพัสดุแก่เรา ผู้ส่งอาจไม่ใช่ผู้ส่งสินค้า
  • 1.5 “ผู้รับมอบ” หมายถึงบุคคลที่มีชื่อเป็นผู้รับมอบในใบนำส่งสินค้า
  • 1.6 “ผู้รับ” หมายถึงบุคคลหรือผู้รับพัสดุ เขา / เธออาจเป็นผู้รับมอบเอง หรือบุคคลอื่น ณ ที่อยู่ของผู้รับมอบ หรือสำนักงานบริหาร / นิติบุคคลตามที่อยู่ของผู้รับมอบ
  • 1.7 “พัสดุ” หมายถึงบรรจุภัณฑ์หรือหีบห่อทั้งหมดที่ส่งให้แก่และรับโดยเราเพื่อการขนส่งภายใต้ 1 ใบนำส่งสินค้า
  • 1.8 “ใบนำส่งสินค้า” หมายถึงใบตราส่งหรือเอกสารอื่นที่เทียบเท่าในรูปแบบกระดาษหรืออิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องกับพัสดุ
  • 1.9 “ข้อตกลงและเงื่อนไข” หมายถึงข้อตกลงและเงื่อนไขมาตรฐานเหล่านี้ รวมถึงที่อาจได้รับการแก้ไขหรือเพิ่มเติมโดยเราเป็นครั้งคราว
  • 1.10 “วันทำงาน” หมายถึงวันจันทร์ถึงวันเสาร์ ไม่รวมวันหยุดนักขัตฤกษ์ในราชอาณาจักรไทย อย่างไรก็ตามหากวันหยุดนักขัตฤกษ์ดังกล่าวเป็นวันจันทร์แทนวันหยุดราชการของวันเสาร์ที่ผ่านมา วันดังกล่าวจะถือว่าเป็นวันทำงาน
2. การยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไขของเรา

เมื่อสั่งซื้อบริการของเราหรือส่งมอบสินค้าให้เรา คุณยอมรับข้อกำหนดในนามผู้จัดส่ง ผู้รับมอบ และบุคคลอื่นใดที่มีหรืออ้างว่ามีส่วนได้เสียกับพัสดุ ซึ่งคุณและบุคคลดังกล่าวจะผูกพันตามข้อตกลงและเงื่อนไข

3. พัสดุต้องห้าม

  • 3.1 รายการต่อไปนี้ถือว่าเป็นพัสดุต้องห้าม และคุณตกลงที่จะไม่ส่งสินค้าใดๆ ต่อไปนี้เป็นพัสดุ
    • 3.1.1 สินค้าผิดกฎหมายหรือต้องห้ามตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง
    • 3.1.2 สินค้าอันตรายรวมถึงสินค้าเสี่ยงอันตรายหรือเป็นพิษ วัตถุระเบิด อาวุธหรือปืน
    • 3.1.3 แบตเตอรี่รถทุกชนิดประเภทใช้งานแล้ว
    • 3.1.4 ยาสูบทุกชนิด บุหรี่อิเล็กทรอนิกส์และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
    • 3.1.5 เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
    • 3.1.6 ตราสารเงิน และตราสารเทียบเท่าเงินสด เช่น หุ้นและพันธบัตร
    • 3.1.7 บัตรเครดิต บัตรเดบิตหรือบัตรเงินสด
    • 3.1.8 เอกสารส่วนบุคคลที่ออกโดยหน่วยงานรัฐบาล เช่นบัตรประชาชน หนังสือเดินทาง ใบขับขี่ เป็นต้น
    • 3.1.9 จดหมาย, เอกสารที่มีข้อมูลเป็นความลับ
    • 3.1.10 ทองแท่ง โลหะหรือหินมีค่า/กึ่งมีค่า
    • 3.1.11 ของสะสม เช่น โบราณวัตถุ งานศิลป์
    • 3.1.12 สัตว์ที่มีชีวิต
    • 3.1.13 ซากมนุษย์หรือสัตว์ ชิ้นส่วนของร่างกายหรืออวัยวะ
    • 3.1.14 การจัดส่งโดยไม่บรรจุหีบห่อที่เหมาะสมหรือเพียงพอ
    • 3.1.15 พัสดุบรรจุกล่องโฟม
    • 3.1.16 พัสดุที่อาจทำให้เกิดความล่าช้าหรือความเสียหายแก่พัสดุ อุปกรณ์หรือบุคคลอื่น
    • 3.1.17 พัสดุที่มีผลรวมของความยาวความกว้างและความสูงมากกว่า 200 ซม. หรือหนักเกิน 25 กิโลกรัม หรือ
    • 3.1.18 พัสดุที่ต้องการให้เราได้รับใบอนุญาตพิเศษหรือใบอนุญาตสำหรับการขนส่ง การนำเข้าหรือส่งออก
  • 3.2 แม้จะมีบทบัญญัติอื่นใด เราจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียความเสียหายหรือการส่งมอบล่าช้าต่อรายการใดๆ ที่ระบุไว้ในข้อ 3.1
  • 3.3 คุณต้องชดใช้ค่าเสียหายในการเรียกร้องใดๆ และทั้งหมดแก่เรา รวมถึงต้นทุนและค่าใช้จ่ายอันเป็นผลจากการที่คุณฝ่าฝืนกฎหมายและข้อบังคับ หรือจากการส่งสินค้าใดๆ ที่ระบุไว้ในข้อ 3.1
4. พัสดุที่ไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้

  • 4.1 เราอาจยอมรับรายการดังต่อไปนี้ภายใต้เงื่อนไขบางประการ แต่เงื่อนไขการเรียกร้องก็แตกต่างจากปกติ
    • 4.1.1 อาหารแห้ง ลูกอม ช็อกโกแลต
    • 4.1.2 อาหารที่เน่าเปื่อยในบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม
    • 4.1.3 บัตรกำนัล คูปอง บัตรของขวัญ
    • 4.1.4 ผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลว เช่น น้ำ น้ำมัน ครีม ซีรั่ม เจล ฯลฯ
    • 4.1.5 แบตเตอรี่รถยนต์ / รถจักรยานยนต์แบบน้ำใหม่
    • 4.1.6 พืชและต้นไม้
5. การรับประกันและการชดใช้ค่าเสียหายของผู้ส่งสินค้า

  • 5.1 ผู้ส่งสินค้าต้องชดใช้ค่าเสียหายและทำให้เราไม่เป็นอันตรายจากความสูญเสียหรือความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการที่ผู้ส่งสินค้าไม่ปฏิบัติตามการรับประกันต่อไปนี้
    • 5.1.1 พัสดุไม่ใช่รายการที่ระบุไว้ในข้อ 3.1
    • 5.1.2 ข้อมูลทั้งหมดจากผู้ส่งสินค้าหรือตัวแทนมีความถูกต้องและครบถ้วน
    • 5.1.3 ผู้ส่งสินค้าได้ปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับของศุลกากร การนำเข้า การส่งออกและอื่นๆ ที่ใช้บังคับทั้งหมด
    • 5.1.4 พัสดุถูกบรรจุอย่างเพียงพอและเหมาะสมเพื่อป้องกันความเสียหายในระหว่างการจัดส่ง
  • 5.2 ผู้ส่งสินค้าจะต้องตระหนักว่า ในกรณีที่เกิดการสูญเสียหรือความเสียหาย คำขอชดใช้ค่าเสียหายอาจไม่ได้รับการพิจารณาถ้าพัสดุเป็นรายการที่ระบุไว้ในข้อ 4
  • 5.3 ผู้ส่งสินค้าต้องระบุข้อมูลที่ถูกต้องในใบนำส่งสินค้า รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง
    • 5.3.1 ชื่อ ที่อยู่ของผู้ส่งสินค้า (รวมทั้งรหัสไปรษณีย์) และหมายเลขติดต่อ
    • 5.3.2 ชื่อ ที่อยู่ของผู้รับมอบ (รวมทั้งรหัสไปรษณีย์) และหมายเลขติดต่อ
    • 5.3.3 ข้อมูลของพัสดุเช่น จำนวนแพ็คเกจ มูลค่าที่ระบุ จำนวนเงินเรียกเก็บเงินปลายทาง (COD) ถ้ามี
    • 5.3.4 ประเภทของบริการ และ
    • 5.3.5 คำแนะนำพิเศษอื่น ๆ (ถ้ามี)
  • 5.4 ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ผู้ส่งจะต้องแนบเอกสารประจำตัวส่วนบุคคล (เช่น บัตรประชาชน หนังสือเดินทาง) ให้กับเจ้าหน้าที่ของเราเพื่อบันทึก
6. การจัดส่งพัสดุ

  • 6.1 การจัดส่งจะถือว่าเสร็จสิ้นเมื่อพัสดุถูกส่งไปยังที่อยู่ของผู้รับมอบซึ่งระบุไว้ในใบนำส่งสินค้า แต่ไม่จำเป็นต้องมีชื่อผู้รับมอบอยู่
  • 6.2 พัสดุไม่สามารถส่งไปยังตู้ไปรษณีย์หรือรหัสไปรษณีย์
  • 6.3 ถ้าผู้รับมอบไม่พร้อมรับพัสดุตามที่อยู่ เราอาจจัดส่งพัสดุให้บุคคลอื่น ณ ที่อยู่ของผู้รับมอบ (เช่น เพื่อนร่วมงาน สมาชิกในครอบครัว ฯลฯ) พัสดุที่ถูกส่งไปยังที่อยู่ซึ่งมีพื้นที่รับของส่วนกลางอาจถูกส่งไปยังพื้นที่ดังกล่าว เช่น สำนักงานนิติบุคคล สำนักงานบริหาร ฝ่ายต้อนรับ ณ ที่อยู่ของผู้รับมอบ เพื่อความปลอดภัยของพัสดุ เราจะไม่จัดส่งพัสดุไปยังสถานที่ซึ่งไม่มีผู้รับ แม้จะได้รับการร้องขอจากผู้ส่งสินค้าและ / หรือผู้รับมอบ
  • 6.4 เราจะไม่ส่งมอบพัสดุไปยังที่อยู่อื่นนอกเหนือจากที่อยู่ของผู้รับมอบซึ่งระบุไว้ในใบนำส่งสินค้า เว้นแต่จะได้คำแนะนำจากผู้ส่งสินค้า ผู้รับมอบจะต้องติดต่อผู้ส่งสินค้าเพื่อขอข้อมูลดังกล่าว
7. หลักฐานการจัดส่ง

  • 7.1 จำเป็นต้องมีลายเซ็นจากผู้รับมอบเพื่อเป็นหลักฐานการจัดส่ง
  • 7.2 ในกรณีที่ผู้รับไม่ใช่ผู้รับมอบ ผู้จัดส่งของเราจะพยายามยืนยันตัวตนของผู้รับอย่างสมเหตุสมผล จำเป็นต้องมีลายเซ็นของผู้รับดังกล่าวเพื่อเป็นหลักฐานการจัดส่ง
  • 7.3 ในกรณีพิเศษที่ไม่สามารถลงลายมือชื่อได้ ผู้จัดส่งของเราจะเขียนเป็นหมายเหตุไว้ บางครั้งไม่สามารถลงลายมือชื่อได้ด้วยเหตุผลหลายประการ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ผู้รับซึ่งเป็นผู้ไร้ความสามารถ
8. การจัดส่งไม่สำเร็จ

  • 8.1 อาจเกิดการจัดส่งไม่สำเร็จได้จากเหตุผลต่างๆ เช่น
    • 8.1.1 ผู้รับมอบปฏิเสธการจัดส่งหรือจ่ายเงินเรียกเก็บเงินปลายทาง
    • 8.1.2 ไม่สามารถระบุหรือบอกตำแหน่งของผู้รับมอบได้อย่างสมเหตุสมผล
    • 8.1.3 ไม่มีบุคคลที่เหมาะสมรอรับพัสดุตามที่อยู่ของผู้รับมอบ
    • 8.1.4 พัสดุกำลังรอดำเนินการจากผู้รับมอบ (เช่น โทรกลับเพื่อยืนยันการจัดส่ง รับพัสดุที่จุดบริการของเรา เลื่อนการจัดส่งเป็นต้น)
  • 8.2 ประมาณวันที่จัดส่ง กรณีที่การจัดส่งไม่สำเร็จในครั้งแรก เราจะพยายามจัดส่งพัสดุให้อีกครั้งหนึ่งภายใน 2 วันทำการภายใน 7 วันทำการถัดไปโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม (เช่น พยายามจัดส่งสูงสุด 3 ครั้ง) ถ้าผู้ส่งสินค้าเลือกที่จะไม่ใช้บริการ “จัดส่งวันเสาร์” วันเสาร์จะไม่นับเป็นวันทำงานตามข้อนี้
  • 8.3 ถ้าเราเชื่อว่าข้อมูลของผู้รับมอบจากผู้ส่งสินค้าไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์ เราจะพักพัสดุไว้และขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ส่งสินค้า
9. การจัดส่งล่าช้า

  • 9.1 ‘การจัดส่งล่าช้า’ หมายถึงการจัดส่งที่เสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งใช้เวลาเกินกว่าวันที่จัดส่งโดยประมาณ วันที่จัดส่งที่กำหนดเป็นเพียงการประมาณเท่านั้นและไม่มีการรับประกัน
  • 9.2 ขณะที่เราพยายามส่งมอบพัสดุอย่างเหมาะสมตามตารางเวลาการจัดส่ง เวลาจะไม่ถือเป็นสาระสำคัญในแง่ของการจัดส่งพัสดุ และเราจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายโดยตรงหรือโดยอ้อมที่เกิดจากความล่าช้าในการจัดส่ง
10. พัสดุที่ไม่ได้ส่งมอบและการส่งคืนพัสดุ

  • 10.1 จะถือว่าพัสดุนั้นยัง “ไม่ได้ส่งมอบ” ในบางกรณี เช่น
    • 10.1.1 การจัดส่งซ้ำไม่สำเร็จ
    • 10.1.2 ไม่สามารถจัดส่งพัสดุได้ภายใน 7 วันทำการตามประมาณวันที่จัดส่ง
    • 10.1.3 ผู้ส่งสินค้าไม่สามารถให้คำแนะนำเพิ่มเติมตามคำขอของเรา หรือ
    • 10.1.4 ผู้ส่งสินค้าขอยกเลิกการจัดส่งและ / หรือส่งคืนพัสดุด้วยเหตุผลใดก็ตาม
  • 10.2 พัสดุที่ไม่ได้ส่งมอบจะถูกส่งกลับไปให้ผู้ส่งสินค้าโดยผู้ส่งสินค้าจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย หากไม่มีผู้รับเราจะทำการปล่อยพัสดุ จำหน่ายหรือขายโดยไม่ต้องรับผิดใดๆ ต่อผู้ส่งสินค้า หรือบุคคลอื่น โดยเงินที่ได้นำไปใช้กับค่าบริการและค่าใช้จ่ายในการบริหารและดุลยอดขายที่จะต้องคืนผู้ส่งสินค้า (ถ้ามี)
  • 10.3 ไม่สามารถขอคืนค่าธรรมเนียมการจัดส่งทั้งหมดและค่าใช้จ่ายอื่นที่จ่ายเพื่อส่งพัสดุได้
  • 10.4 พัสดุอาจถูกส่งไปยังที่อยู่ของผู้ส่งสินค้าโดยตรงหรือไปยังจุดบริการของเราซึ่งผู้ส่งสินค้าเป็นคนกำหนดไปรับ
  • 10.5 ถ้าจะส่งพัสดุที่ส่งคืนแล้วไปยังที่อยู่ของผู้ส่งสินค้า ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดข้อ 6 ถึง 9
  • 10.6 ถ้าจะรับพัสดุที่ส่งคืน ณ จุดบริการที่ผู้ส่งสินค้ากำหนด เราจะติดต่อผู้ส่งสินค้าในวันที่พัสดุมาถึงและผู้ส่งสินค้าจะต้องไปรับพัสดุดังกล่าวภายใน 7 วันทำการ หากไม่มีผู้รับเราจะทำการปล่อยพัสดุ จำหน่ายหรือขายโดยไม่ต้องรับผิดใดๆ ต่อผู้ส่งสินค้า หรือบุคคลอื่นโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า โดยเงินที่ได้นำไปใช้กับค่าบริการและค่าใช้จ่ายในการบริหารและดุลยอดขายที่จะต้องคืนผู้ส่งสินค้า (ถ้ามี)
11. ค่าจัดส่งและค่าใช้จ่ายอื่น

  • 11.1 ผู้ส่งสินค้าจะต้องเป็นผู้ชำระค่าธรรมเนียมการจัดส่ง และคำนวณตามวิธีการต่อไปนี้
    • 11.1.1 น้ำหนักขนาด หรือ
    • 11.1.2 การเปรียบเทียบขนาดของพัสดุ (ผลรวมของความยาว ความกว้างและความสูง) และน้ำหนัก สำหรับวิธีนี้ขนาดและน้ำหนักที่แตกต่างกันจะมีช่วงราคาต่างกันและค่าจัดส่งพัสดุที่เกิดขึ้นจริงจะขึ้นอยู่กับช่วงราคาของขนาดหรือน้ำหนัก แล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า
  • 11.2 นอกจากนี้ยังอาจมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าใช้จ่ายในการรับสินค้า ค่าบริการเก็บเงินปลายทาง ค่าธรรมเนียมประกันภัย ค่าบริการจัดส่งวันเสาร์ ค่าแรง ค่าคืนพัสดุ ค่าบริการด่วนพิเศษ ฯลฯ ในการส่งพัสดุ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
12. บริการเก็บเงินปลายทาง (COD) และค่าบริการเก็บเงินปลายทาง

  • 12.1 หากคุณเลือกบริการเก็บเงินปลายทาง ผู้ส่งสินค้า จะต้องชำระค่าบริการเก็บเงินปลายทาง จำนวนเงินสูงสุดที่เราสามารถเรียกเก็บปลายทางได้คือ 50,000 บาทต่อ 1 ใบนำส่งสินค้า
  • 12.2 บริการเก็บเงินปลายทางไม่ทำให้เราเป็นตัวแทนของผู้ส่งสินค้า หรือก่อให้เกิดภาระผูกพันระหว่างเรากับผู้รับมอบ
  • 12.3 ผู้ส่งสินค้ายอมรับความเสี่ยงทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการรับชำระเงิน รวมทั้งการไม่ชำระเงิน เงินไม่เพียงพอและการปลอมแปลง
13. การแก้ไขที่อยู่และการกำหนดเส้นทางใหม่

  • 13.1 หากผู้ส่งสินค้าไม่สามารถให้ที่อยู่ทั้งหมดหรือที่ถูกต้องของผู้รับมอบได้ เราจะพยายามค้นหาที่อยู่ที่ถูกต้องและส่งมอบพัสดุ หากไม่สำเร็จ เราจะพยายามติดต่อผู้ส่งสินค้าเพื่อขอคำแนะนำ หากต้องกำหนดเส้นทางใหม่หลังจากผู้ส่งสินค้าระบุที่อยู่ที่ถูกต้องใหม่ อาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
  • 13.2 หากผู้รับมอบขอเปลี่ยนที่อยู่ในการจัดส่ง ผู้รับมอบจะต้องติดต่อผู้ส่งสินค้าซึ่งจะให้คำแนะนำในการกำหนดเส้นทางใหม่
  • 13.3 การกำหนดเส้นทางใหม่จะต้องชำระค่าบริการเพิ่มเติม
14. สิทธิในการตรวจสอบ

  • 14.1 เราขอสงวนสิทธิ์ในการเปิดและตรวจสอบพัสดุ โดยไม่ต้องแจ้งให้คุณทราบเพื่อความปลอดภัย ความมั่นใจ ศุลกากรหรือตามกฎระเบียบ
  • 14.2 ในทำนองเดียวกันมีโอกาสที่เจ้าหน้าที่ของรัฐอาจต้องเปิดและตรวจสอบพัสดุบางชิ้น เราจำเป็นต้องปฏิบัติตามคำแนะนำดังกล่าวอย่างเต็มที่ ซึ่งในกรณีนี้ไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ผู้จัดส่งสินค้าหรือผู้รับมอบทราบล่วงหน้า
15. ความรับผิดของเรา

  • 15.1 ความรับผิดของเราในพัสดุใดๆ นั้นจะจำกัดเพียงการสูญเสียและความเสียหายโดยตรงและรวมมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาทต่อ 1 ใบนำส่งสินค้า เว้นเสียแต่ว่ามีการระบุไว้เป็นอย่างอื่นในข้อตกลงร่วมกันเป็นลายลักษณ์อักษรระหว่างผู้ส่งสินค้าและเรา และขึ้นอยู่กับการชำระเงินค่าธรรมเนียมประกันภัยของผู้ส่งสินค้า
  • 15.2 เราจะไม่รับผิดภายใต้สถานการณ์ดังต่อไปนี้
    • 15.2.1 การสูญหายหรือความเสียหายต่อพัสดุที่บรรจุรายการดังระบุในข้อ 3.1
    • 15.2.2 การสูญหายหรือความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการส่งมอบพัสดุที่ล่าช้า
    • 15.2.3 การสูญหายหรือความเสียหายต่อพัสดุเนื่องจากสถานการณ์ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเรา (ดูข้อ 16) หรือ
    • 15.2.4 การสูญเสียหรือความเสียหายทางอ้อมหรือที่เป็นผลจากการกระทำอื่น
16. สถานการณ์นอกเหนือการควบคุมของเรา

  • 16.1 เราไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเราซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง
    • 16.1.1 ความเสียหายของข้อมูลเนื่องจากผลกระทบจากสนามแม่เหล็กของพัสดุอื่น
    • 16.1.2 การกระทำหรือการละเลยโดยบุคคลที่ไม่ได้ทำงานหรือทำสัญญากับเรา เช่น ผู้ส่งสินค้า ผู้รับมอบ บุคคลที่สาม ศุลกากรหรือเจ้าหน้าที่รัฐ
    • 16.1.3 เหตุสุดวิสัย เช่น สงคราม (ทั้งที่ประกาศหรือไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ) รัฐประหาร การก่อกบฏ การปฏิวัติ การก่อการร้าย การจับตัวประกัน เหตุระเบิด หรือการใช้อาวุธสงคราม หรือปฏิกิริยาตอบโต้การกระทำเหล่านี้ รวมทั้งการยึดพัสดุ การนัดหยุดงานของพนักงาน เหตุสุดวิสัย (เช่น น้ำท่วม แผ่นดินไหว พายุ ฯลฯ)
17. การยื่นข้อร้องเรียน

  • 17.1 หากคุณต้องการเรียกร้องในกรณีที่เกิดความเสียหายหรือพัสดุสูญหายบางส่วน คุณต้องยื่นข้อร้องเรียนอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรต่อทีมรับข้อร้องเรียนของเคอรี่เอ็กซ์เพรสภายในสิบสี่ (14) วันตามหลังจากส่งมอบ
  • 17.2 หากคุณต้องการเรียกร้องค่าเสียหายในพัสดุทั้งหมด คุณต้องยื่นข้อร้องเรียนของคุณเป็นลายลักษณ์อักษรต่อ ทีมรับข้อร้องเรียนของเคอรี่เอ็กซ์เพรสภายในสิบสี่ (14) วันนับจากวันที่เราได้รับการยืนยัน
  • 17.3 จำกัดเพียงหนึ่งข้อร้องเรียนต่อใบนำส่งสินค้า
  • 17.4 คุณต้องส่งเอกสารต่อไปนี้เพื่อดำเนินการกับการเรียกร้องดังกล่าว
    • 17.4.1 แบบฟอร์มการเรียกร้องค่าสินไหม (จากทีมรับข้อร้องเรียนของเคอรี่เอ็กซ์เพรสหรือ https://th.kerryexpress.com/en/home)
    • 17.4.2 สำเนาบัตรประชาชนไทย (สำหรับคนไทย) หรือหนังสือเดินทาง (สำหรับคนที่ไม่เป็นชาวไทย)
    • 17.4.3 หลักฐานเอกสารที่มีมูลค่า เช่น ใบเสร็จรับเงิน ใบแจ้งหนี้ บันทึกการทำธุรกรรมของธนาคารพร้อมโฆษณาบนเว็บไซต์ เป็นต้น
    • 17.4.4 (หากเรียกร้องในนามของบริษัท) สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัทของคุณ
    • 17.4.5 (หากเรียกร้องพัสดุที่ได้รับความเสียหาย) รูปภาพพัสดุที่ได้รับความเสียหาย รวมถึงวัสดุและวิธีบรรจุหีบห่อ
  • 17.5 เราจะไม่ดำเนินการข้อร้องเรียนใดๆ จนกว่าคุณจะชำระค่าขนส่งทั้งหมดและคุณจะไม่สามารถหักจำนวนเงินค่าทดแทนของคุณจากค่าใช้จ่ายเหล่านั้นได้
  • 17.6 เราขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกคืนพัสดุที่ได้รับความเสียหายจากคุณตามเงื่อนไขการชดเชย
18. กฎหมายที่บังคับใช้

ข้อตกลงและเงื่อนไขจะอยู่ภายใต้กฎหมายแห่งราชอาณาจักรไทยและคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายอยู่ใต้เขตอำนาจศาลแห่งราชอาณาจักรไทยโดยไม่อาจเพิกถอนได้